ซื้อรถบรรทุกมือสอง ต้องเช็คดูอะไรบ้าง? | Micro Leasing

ซื้อรถบรรทุกมือสอง ต้องเช็คดูอะไรบ้าง?

10 August 2022

ซื้อรถบรรทุกมือสอง ต้องเช็คดูอะไรบ้าง?

การตัดสินใจซื้อรถบรรทุกคันใหม่ สำหรับหลายคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะรถบรรทุกมาพร้อมต้นทุนค่าใช้จ่ายอีกมากมายทั้งค่างวด ค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ค่าอุปกรณ์อะไหล่ ค่าประกันรถ และอื่นๆ ดังนั้น รถบรรทุกมือสองจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ใครหลายคนนำไปใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่การเลือกซื้อรถบรรทุกมือสอง ต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบกันไปด้วย ซึ่งวันนี้ไมโครลิสซิ่ง มีข้อแนะนำว่าจะซื้อรถบรรทุกมือสอง ต้องเช็คดูอะไรบ้าง?

1.ตรวจเช็คโครงสร้างแชสซี(คัทซี)และตัวถัง

มีลักษณะเป็นโครงเหล็ก ที่เชื่อมต่อเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง เพลาขับ รวมถึงช่วงล่างเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งในการเลือกซื้อรถบรรทุกมือสองต้องตรวจดูสภาพของแชสซีว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง มีการซ่อมแซมมาไหม และต้องดูให้ดีด้วยว่ามีตรงไหนที่ผุกร่อนหรือเปล่า นอกจากนี้ ยังต้องตรวจเช็คสภาพตัวถังภายนอกเช่น สีของตัวรถ ซึ่งผู้ซื้อต้องให้ดูรอบๆ ว่ามีสีที่บวมพองหรือไม่ ที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญตามเต็นท์รถ มักจะใช้วิธีเอามือเคาะรอบตัวรถเพื่อฟังเสียงว่าเป็นรถที่ผ่านการทำสีมาหรือไม่ หรือตรวจสอบร่องรอยการปะผุและสนิมว่ามีการเกิดสนิมที่ตรงไหนหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ต้องดูให้ดีเพราะถ้านำรถไปรถบรรทุกหนักอาจมีความเสียหายหลายอย่างตามมา จึงควรเลี่ยงการซื้อรถบรรทุกคันดังกล่าวไปก่อน

2.ตรวจเช็คเครื่องยนต์

ให้เริ่มจากการตรวจสอบเลขเครื่องว่า ตรงกับในเล่มทะเบียนรถหรือไม่ จากนั้นให้ตรวจเช็คว่าเป็นเครื่องที่หลวมหรือแน่น โดยให้เริ่มต้นจากการสตาร์ทและดูรอบเดินของเครื่อง และสังเกตุฟังว่ามีเสียงอะไรที่มีความผิดปกติหรือไม่ จากนั้นให้สังเกตุที่ว่ามีการปล่อยควันขาวออกมาเยอะไหม ถ้ามีแสดงว่าเครื่องหลวม แต่ขณะเดียวกันถ้าหากมีควันดำนั่นก็หมายความว่าเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์

3.ตรวจเช็คการทำงานของเกียร์

เป็นสิ่งสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวส่งกำลังในการขับเคลื่อนให้รถไปข้างหน้า ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ หรือค่ายกเกียร์ตัวใหม่ อาจทำให้เจ้าของรถที่ซื้อไปต้องกลุ้มใจแน่ๆ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อควรตรวจเช็กด้วยว่า เข้าเกียร์ยาก เกียร์เข้าไม่ตรงตำแหน่งหรือไม่ หากมีอาการเข้าเกียร์ไม่ได้ เข้าเกียร์ยาก หรือเข้าเกียร์แล้วไม่ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ นั่นอาจแค่มาจากการใช้น้ำมันเกียร์ไม่ตรงตามค่ากำหนด แต่ถ้าเข้าเกียร์ยากแล้วยังมีเสียงผิดปกติ ตรงนี้อาจเป็นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งลูกปืนเสียและเฟืองเกียร์ชำรุด ให้ชะลอการตัดสินใจซื้อรถก่อน

4.ตรวจเช็คในห้องโดยสาร

การตรวจสอบความเรียบร้อยของภายในห้องโดยสาร อาจเริ่มต้นไล่เช็กดูที่ระบบไฟฟ้า ระบบสัญญาณต่างๆ ว่ายังคงใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ สิ่งอำนวยความสะดวกยังสามารถใช้งานได้ปกติดีหรือไม่ เช่น ระบบแอร์ถ้าเปิดมาแล้วไม่เย็นก็อาจแปลว่าคอมแอร์มีปัญหา หรือระบบสวิตช์ต่างๆ สามารถใช้งานได้หรือไม่ เป็นต้น หากยังพอแก้ไขได้แบบไม่น่าเกลียดก็อาจแจ้งให้คนขายแก้ไขให้ค่อยตัดสินใจซื้อ

5.ดูความน่าเชื่อถือของคนขาย

เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะในทุกวงการย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดี ผู้ซื้อควรตรวจเช็คประวัติและข้อมูลของคนขาย นายหน้า หรือเต้นท์รถที่เอารถมาขาย ว่าน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน เคยมีใครได้รับความเสียหายหลังจากซื้อรถจากเขามาหรือเปล่า รถคันดังกล่าวที่นำมาขายโดนจับย้อมแมวหรือขายรถตามสภาพ และถ้าเขาเคยมีประวัติ หลอกลวงลูกค้า ไม่รับผิดชอบ หรือแสดงท่าทีว่าไม่มีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ ก็ควรพิจารณาให้ดีว่าน่าซื้อหรือไม่

6.ตรวจเช็คประวัติรถ

แน่นอนว่าการจะตัดสินใจซื้อรถมือสอง สัญชาตญาณของผู้ซื้อต้องมีการสอบถามถึงอุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้น ถ้าเคยมีอุบัติเหตุ ต้องระบุว่ารุนแรงขนาดไหน ชิ้นส่วนไหนที่ถูกเปลี่ยนหรือซ่อมแซมไว้อย่างไร ถ้ามีปัญหาในเวลาต่อมาหลังซื้อไปใช้งานจะได้เตรียมรับมือได้ถูกต้อง หรือช่วยประกอบการตัดสินใจได้ว่าจะซื้อดีหรือไม่

7.ไม่ควรซื้อขายด้วยวิธีการโอนลอย

ข้อนี้อาจมีหลายคนเคยมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การซื้อ-ขาย รถมือสองทุกครั้ง ผู้ซื้อต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของรถ ตรวจสอบหลักฐานทะเบียนรถให้ครบถ้วนเพื่อการซื้อขายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะสมุดคู่มือรถฉบับจริงที่มีชื่อเจ้าของรถ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ สีรถ ต้องถูกต้องตรงกับรถคันที่จะซื้อขายทุกรายการ ตรวจสอบว่ามีการชำระภาษีรถประจำปีครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพ และดำเนินการตามขั้นตอนโอนทางทะเบียนรถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนด้วยตนเองในทันที

ไม่ควรซื้อขายด้วยวิธีการโอนลอย หรือการมอบอำนาจให้ผู้ขายดำเนินการแทน เนื่องจากการซื้อ – ขาย รถด้วยวิธีการโอนลอยโดยไม่ดำเนินการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้องในทันที อาจก่อปัญหา เช่น เอกสารหลักฐานประกอบการดำเนินการหมดอายุ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ เป็นต้น ดังนั้น การซื้อ-ขาย รถมือสองทุกครั้งควรดำเนินการทางทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกให้ถูกต้องด้วยตนเองในทันที เพื่อความปลอดภัย สบายใจ และมั่นใจได้ว่ารถที่ซื้อนั้นเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย

สนใจรถบรรทุกมือสอง มาที่นี่...ไมโครลิสซิ่ง ขวัญใจสิบล้อ ผู้นำการให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกมือสองแบบครบวงจร
อนุมัติง่าย ทราบผลไว ให้วงเงินสูง มีเจ้าหน้าที่ให้บริการทั่วประเทศ
สามารถตรวจสอบรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์  หรือ ติดต่อได้ที่เบอร์ (034) 109-200
สนใจสินเชื่อทักแชทหาแอดมินได้เลยค่ะหรือ คลิก
ค้นหาสาขาใกล้ท่าน คลิก
แอดไลน์ไมโครลิสซิ่ง ขวัญใจสิบล้อ คลิก

*เงื่อนไข เป็นไปตามที่บริษัทไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) กำหนด

ขอขอบคุณข้อมูล: Bus and Truck