กฎหมายใหม่ ปี 2568 ทำประกันรถ “ต้องระบุคนขับ”

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 46/2567 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ให้บริษัทประกันภัยเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท (1, 2, 3, 2+ และ 3+) โดยมีข้อกำหนด ดังนี้
- การทำประกันรถยนต์กรณีใช้งานส่วนบุคคล ต้องทำประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่
- การทำประกันภัยรถยนต์สำหรับรถยนต์ใช้งานประเภทอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการใช้งานส่วนบุคคล ผู้ขับขี่ต้องทำประกันภัยแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เบี้ยประกันภัยสะท้อนถึงพฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันภัยอย่างแท้จริง ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ดี ไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุหรือเคลมประกัน จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุดถึง 80% มาตรการดังกล่าวนอกจากจะส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีความรับผิดชอบมากขึ้นแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุบนท้องถนนในภาพรวมอีกด้วย
การทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุคนขับ (Named Driver Insurance) คือรูปแบบกรมธรรม์ที่กำหนดให้ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่หลักทุกคนลงในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 สำหรับรถยนต์ใหม่ป้ายแดง และจะขยายผลครอบคลุมรถยนต์ทุกคันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เบี้ยประกันสะท้อนความเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง และสนับสนุนการใช้ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ในการพิจารณาเบี้ยประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
กฎหมายใหม่ของประกันรถยนต์ ต่างจากแบบเดิมอย่างไร?

เกณฑ์การระบุชื่อผู้ขับขี่ เริ่มใช้เมื่อไหร่? ใครได้รับผลกระทบบ้าง?
การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กลายเป็นหนึ่งในเกณฑ์ใหม่ที่สำนักงานคปภ. เริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การคำนวณเบี้ยประกันสะท้อนถึงความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้ขับขี่แต่ละคน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการขับขี่อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นพื้นฐานในการให้ส่วนลดเบี้ยประกันตามพฤติกรรมในอนาคต
ช่วงเวลาเริ่มบังคับใช้จะแบ่งตามประเภทรถ ดังนี้:
- รถยนต์ไฟฟ้า (EV): เริ่มบังคับระบุชื่อผู้ขับขี่ตั้งแต่ปี 2567 (มีผลบังคับใช้แล้ว)
- รถยนต์ป้ายแดง (รถใหม่อายุไม่เกิน 1 ปี): เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568
- รถยนต์ทุกประเภทที่ใช้ส่วนบุคคล: บังคับเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569
(ยกเว้นรถบริษัท, รถเช่า, รถรับจ้าง, รถแท็กซี่ เนื่องจากมีการใช้งานเฉพาะ และเปลี่ยนผู้ขับขี่บ่อย)
โดยผู้เอาประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คน ซึ่งชื่อทั้งหมดนี้จะถูกรวมไว้ในกรมธรรม์ และนำไปใช้ประกอบการคำนวณเบี้ยประกัน รวมถึงสิทธิ์ในการขอรับส่วนลดจากประวัติหรือพฤติกรรมการขับขี่ได้อย่างเหมาะสม หากคุณเป็นเจ้าของรถที่กำลังจะซื้อประกันหรือต่ออายุกรมธรรม์ในช่วงปี 2568–2569 การทำความเข้าใจเกณฑ์ใหม่นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้พลาดความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ
ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
การทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงื่อนไขใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบที่ช่วยสร้างความยุติธรรม ปลอดภัย และคุ้มค่าให้กับผู้ขับขี่ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมขับรถดีต่อเนื่อง ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายด้าน ดังนี้:
- ขับดีได้รางวัลเป็นส่วนลดเบี้ยประกันภัย สูงสุด40%
ระบบใหม่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับที่ดี และไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหม จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุดถึง 40% โดยมาจาก:
- ส่วนลดระบุชื่อผู้ขับขี่
- ส่วนลดจากพฤติกรรมการขับขี่ดี
ใครที่ขับขี่ดีต่อเนื่อง ไม่เกิดอุบัติเหตุ ยิ่งใช้รถคันเดิมนานยิ่งคุ้ม
- เบี้ยประกันสะท้อนความเสี่ยงจริง
เมื่อมีการระบุชื่อผู้ขับขี่ บริษัทประกันจะนำข้อมูลเฉพาะของผู้ขับ เช่น อายุ เพศ ประวัติอุบัติเหตุ และพฤติกรรมการขับรถ มาคำนวณเบี้ย ทำให้คุณจ่ายเฉพาะตาม “ความเสี่ยงที่แท้จริง” ไม่ต้องจ่ายแพงเพราะคนอื่น
- ลดอุบัติเหตุด้วยแรงจูงใจเชิงบวก
แนวคิดใหม่นี้ไม่ได้ลงโทษคนขับเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังให้รางวัลกับคนที่ขับดี โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมปลอดภัย เช่น ไม่ขับเร็ว ไม่เบรกกระทันหัน หรือไม่ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ สิ่งเหล่านี้ช่วยลดอุบัติเหตุในภาพรวมได้อย่างชัดเจน
- ระบบยุติธรรมมากขึ้น
ในอดีตผู้ขับขี่ดีต้องจ่ายเบี้ยแพงร่วมกับคนที่ขับเสี่ยง แต่ระบบใหม่ให้ “รางวัลแก่คนที่ขับดี” และ “ลดสิทธิพิเศษของผู้ที่ขับเสี่ยง” อย่างชัดเจน ถือเป็นการสร้างระบบประกันภัยที่ยุติธรรมกับทุกคนมากขึ้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขับรถอย่างระมัดระวังและมีวินัย การระบุชื่อผู้ขับขี่ในประกันภัยรถยนต์จะช่วยเพิ่มทั้ง “ความคุ้มค่า” และ “ความปลอดภัย” ให้กับคุณและรถของคุณอย่างแท้จริง
คนขับไม่ใช่ชื่อที่ระบุไว้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุเคลมได้มั้ย?
หนึ่งในประเด็นที่หลายคนสงสัย คือ หากทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ แต่ตอนเกิดอุบัติเหตุกลับเป็นคนอื่นที่ขับ เช่น ญาติหรือเพื่อน แบบนี้จะยังเคลมได้อยู่หรือไม่? คำตอบคือ "สามารถเคลมได้ตามปกติ" โดยมีรายละเอียดแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้:
1.หากเป็นฝ่ายถูก: แม้คนขับจะไม่ใช่ผู้ที่มีชื่อในกรมธรรม์ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะหากเป็นฝ่ายถูก จะได้รับความคุ้มครองจากคู่กรณีตามปกติอยู่แล้ว
2.หากเป็นฝ่ายผิด: บริษัทประกันยังคงให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่จะมี ค่าใช้จ่ายบางส่วน ที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติม เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ดังนั้น การเลือกประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ จึงเหมาะกับผู้ที่มั่นใจว่าเป็นผู้ใช้รถหลักและไม่เปลี่ยนมือบ่อย แต่หากมีโอกาสให้คนอื่นยืมรถอยู่บ่อยครั้ง การเลือกทำประกันแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ อาจเหมาะสมและให้ความยืดหยุ่นมากกว่า โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องเคลมประกันรถยนต์
มองหาประกันคุ้มค่า คุ้มครอง ครอบคลุมในทุกความต้องการ ที่ดูแลผลประโยชน์สูงสุด ได้ตามความพึงพอใจของลูกค้า ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ไว้ใจให้ ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ ได้ดูแลคุณ พร้อมให้คำปรึกษาให้ความคุ้มครอง โทร.034-109-200 ต่อ 5101, 034-109-200 ต่อ 5102 หรือแอดไลน์มาที่ @mib.broker