10 วิธีเช็กรถก่อนเดินทางไกลให้ปลอดภัยง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ก่อนออกเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็นทริปท่องเที่ยวหรือภารกิจสำคัญ การตรวจเช็กรถให้พร้อมใช้งานคือเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยลดโอกาสเกิดเหตุขัดข้องระหว่างทาง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกคนในรถ บทความนี้ได้รวบรวม วิธีการเช็กรถแบบง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้การเดินทางของคุณมั่นใจและอุ่นใจยิ่งขึ้น

1.เช็กตาแมวบนแบตเตอรี่
วิธีเช็กรถก่อนเดินทางไกลในอันดับแรก ควรเช็กก่อนว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ โดยสามารถดูได้จากตาแมวบนแบตเตอรี่ซึ่งจะบ่งบอกค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำกรดว่าอยู่ในสถานะไหน
- สีเขียว = แบตเตอรี่มีไฟปกติ
- สีดำ = ไฟอ่อน ต้องทำการรีชาร์จไฟ
- สีขาว = น้ำกลั่นแห้ง เกิดจากแบตเตอรี่ถูก overcharge เช่น ถูกไดชาร์จรถยนต์ overcharge หรือ ถูกเครื่องชาร์จ overcharge เป็นเวลานาน ๆ

2.สีและระดับน้ำมันเครื่อง
ก่อนขับทางไกลควรมีการเช็กสี และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้ระบบกลไกต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีเช็กสีน้ำมันเครื่อง
หากน้ำมันเครื่องมีสีเหลืองโปร่งแสง คือสะอาดมีประสิทธิภาพ แต่หากน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำ บ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องเก่าหรือสกปรก
- วิธีเช็กระดับน้ำมันเครื่อง
ขั้นแรกจะต้องดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาทำความสะอาดแล้วเสียบกลับไปจุดเดิม ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แสดงว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ ทางที่ดีควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อใช้ในยามฉุกเฉินจะดีที่สุด
3.สังเกตสภาพโดยรวมของยาง
การตรวจเช็กสภาพรถแน่นอนว่ายางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ควรเช็คก่อนออกเดินทางมาก ๆ โดยต้องสังเกตจากดอกยางซึ่งจะต้องไม่มีการฉีกขาด ไม่แตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ และลมยางจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่มีการรั่วซึม และสภาพโดยรวมของล้อจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน ไม่คด ไม่เบี้ยว
4.น้ำมันเบรกและระบบเบรก
การเช็กรถก่อนเดินทางไกล อย่างการดูน้ำมันเบรกและระบบเบรกนับเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ยิ่งเวลาขับรถตอนฝนตกหนัก ถนนลื่น การควบคุมรถจะยากกว่าปกติ ควรตรวจเช็กระดับน้ำมันเบรก และน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทางที่ดีควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน และอย่าลืมเช็กน้ำมันเบรก ผ้าเบรกรวมถึงระบบเบรกว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับ Min หรือมีการลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดการรั่วในระบบเบรก ควรนำรถเข้าตรวจเช็คโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย
5.สังเกตความสว่างของไฟคู่หน้าและไฟท้าย
ก่อนขับรถทางไกลควรตรวจเช็กสภาพรถและความสว่างของไฟคู่หน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน ไฟเบรกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมทั้งสังเกตไฟเตือนต่าง ๆ หากมีการแจ้งเตือน ต้องแก้ไขปัญหาก่อนออกเดินทาง ซึ่งนี่ถือเป็นวิธีเช็กรถยนต์ก่อนเดินทางไกลขั้นพื้นฐานที่ควรทำ เพราะหากไฟรถมีความสว่างไม่เพียงพอ หรือไฟรถอันใดอันนึงเสีย อาจทำให้เราและผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ เกิดอุบัติเหตุได้
6.ใบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก
ที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ทำให้วิสัยทัศน์ที่มองผ่านกระจกนั้นชัดเจน ปลอดภัย ในสถานการณ์ที่ฝนตก หรือกระจกขุ่มมัว ดังนั้นที่ปัดน้ำฝนจึงเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญ ควรตรวจเช็กที่ปัดน้ำฝนว่า สามารถรีดน้ำได้ดีหรือไม่ มีอาการเปื่อย ยุ่ย หรือเสื่อมสภาพหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวควรเปลี่ยนใหม่ทันที รวมถึงน้ำฉีดกระจกที่ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

7.เช็กน้ำมันเกียร์และน้ำมันคลัตช์
เกียร์และคลัตช์ เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการควบคุมรถยนต์ให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของเกียร์และคลัตช์ จึงต้องสมบูรณ์พร้อมก่อนออกเดินทางไกล รวมถึงน้ำมันเกียร์และน้ำมันคลัตช์ต้องไม่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Min หากพบว่ามีระดับที่ต่ำกว่าแสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับระบบเกียร์และระบบคลัตช์ ต้องได้รับการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
8.แผ่นกรองอากาศ
แผ่นกรองอากาศเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องรถจากสิ่งไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ภายนอก โดยแผ่นกรองอากาศที่อุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติ ส่งผลให้ส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์สึกหรอได้ การตรวจสอบแผ่นกรองอากาศใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เพียงเปิดตู้แอร์แล้วนำตัวกรองอากาศออกมาตรวจดู ทำการดูดสิ่งสกปรกออก หรือจะเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศใหม่ในกรณีที่จำเป็น
9.เช็กระบบแตรรถยนต์
คนส่วนใหญ่มักไม่คิดว่าจะต้องตรวจระบบแตรด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแตรรถมีความสำคัญอย่างมาก เพราะในขณะขับขี่เราอาจจำเป็นต้องใช้แตรเพื่อสื่อสาร และส่งสัญญาณกับรถคันอื่น ดังนั้นก่อนเดินทางไกลอย่าลืมเช็กระบบแตรว่ายังเสียงดังและลมแตรยังดีอยู่หรือไม่ด้วย
10.แผงควบคุมและหน้าปัด
นอกจากตรวจเช็กสภาพรถภายนอกแล้ว แผงควบคุมและหน้าปัด จัดได้ว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ควรตรวจสอบว่าสามารถทำได้ได้อย่างปกติดีมั้ย มีสัญญาณอะไรแจ้งเตือนขึ้นบ้าง เพราะเราจะทราบทันทีจากระบบแจ้งเตือนว่าควรตรวจเช็กอะไรบ้าง นอกจากการตรวจสอบแล้วควรมีความรู้แล้วความเข้าใจในทุก ๆ สัญญาณเตือนบนแผงควบคุมและหน้าปัดด้วย เพื่อสามารถให้การเดินทางของคุณสามารถออกเดินทางได้อย่างสบายใจหายห่วง
💡 ทริคเพิ่มเติม
- เติมน้ำมันให้เต็มถัง
- ตรวจสอบใบขับขี่ พรบ. ประกันรถยนต์ และจดเบอร์โทรฉุกเฉินไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน
- วิธีคลายง่วง ดื่มน้ำเปล่าเติมความสดชื่น, จิบกาแฟระหว่างขับรถ, แวะพักยืดเส้น ยืดสาย ลดการปวดเมื่อย, เปิดเพลงฟังระหว่างขับ
- วางแผนการเดินทาง เผื่อเวลาสำหรับการจราจร
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร
การเดินทางไกลจะปลอดภัยมากขึ้น หากเราใส่ใจตรวจเช็กรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ทั้งแบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง ยาง ระบบเบรก รวมถึงอุปกรณ์และสัญญาณไฟต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ แม้หลายขั้นตอนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ล้วนช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก
เมื่อเตรียมรถให้พร้อมและเตรียมตัวให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ วางแผนเส้นทาง หรือปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น อุ่นใจ และถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยครับ
มองหา สินเชื่อซื้อขายรถบรรทุกมือสอง ไมโครลิสซิ่งเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพราะที่นี่มีขั้นตอนการอนุมัติที่ง่ายและประสิทธิภาพ ทราบผลไว ให้วงเงินสูง มีบริการถึงบ้านทั่วประเทศและดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.66% มีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย แถมคุณสามารถ ค้นหาสาขาที่ใกล้บ้านคุณ ได้ด้วย
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ ไมโครลิสซิ่ง ขวัญใจสิบล้อ
Website: https://www.microleasingplc.com
Tiktok: https://www.tiktok.com/@microleasing
Facebook : https://www.facebook.com/Microleasing
Youtube : https://www.youtube.com/@microleasing
Line Official Account: @microleasing