เช็กภาษีรถยนต์ออนไลน์ มีกี่ขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

การต่อภาษีรถยนต์ประจำปีถือเป็นหน้าที่สำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำ การเช็คภาษีในปัจจุบัน ก็สามารถเช็กภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ซึ่งช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกในการวางแผนค่าใช้จ่าย สามารถตรวจสอบข้อมูลภาษีรถยนต์ได้ทุกที่ทุกเวลา
ในบทความนี้ ไมโครลิสซิ่ง มารวบรวมวิธีเช็กภาษีรถยนต์ออนไลน์แบบละเอียด ค่าใช้จ่ายทุกขั้นตอนที่สำคัญมาฝากเพื่อนๆ กันครับ
ภาษีรถยนต์ต้องจ่ายเท่าไหร่
อัตราภาษีที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ ก็คือ ประเภทของรถยนต์, ขนาดความจุกระบอกสูบ (CC) และอายุการใช้งานของรถ ที่ส่งผลให้รถแต่ละคันมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้แตกต่างกันไปครับ
เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ง่ายขึ้น เรามาดูรายละเอียดอัตราภาษีของรถแต่ละประเภท จะได้เตรียมตัววางแผนการเงินและตรวจสอบภาษีรถยนต์ของตัวเองได้อย่างแม่นยำกันครับ
อัตราภาษีรถยนต์ตามประเภทรถยนต์
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รถเก๋ง) การคำนวณภาษีสำหรับรถเก๋งจะคิดตามขนาดความจุกระบอกสูบ หรือ ซีซี (CC) ของเครื่องยนต์ โดยมีอัตราการคิดเป็นขั้นบันได ดังนี้
- 600 ซีซีแรก ซีซีละ 0.50 บาท
- 601 – 1,800 ซีซี ซีซีละ 1.50 บาท
- 1,801 ซีซีขึ้นไป ซีซีละ 4.00 บาท
ตัวอย่าง รถยนต์เครื่อง 1,500 ซีซี จะมีวิธีคำนวณคือ
- (600 x 0.50) + ((1500 – 600) x 1.50) = 300 + (900 x 1.50) = 300 + 1,350 = 1,650 บาท
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (รถตู้) สำหรับรถตู้ การคำนวณภาษีจะคิดตามน้ำหนักของรถยนต์ ซึ่งมีอัตราที่แตกต่างกันไปตามน้ำหนักของตัวรถครับ
- รถกระบะ และรถบรรทุกส่วนบุคคล รถกระบะหรือรถบรรทุกส่วนบุคคล จะคิดภาษีตามน้ำหนักรถเช่นกัน โดยมีอัตราที่แตกต่างกันไปตามน้ำหนักของตัวรถครับ
หมายเหตุ : เช็กข้อมูลการคิดอัตราภาษีรถยนต์เพิ่มเติมกับกรมการขนส่งทางบก
ได้ที่ : https://www.dlt.go.th/th/fees-and-tariffs
ส่วนลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปี
สำหรับเจ้าของรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานหลายปีจะได้รับส่วนลดค่าภาษีประจำ โดยมีรายละเอียดส่วนลดดังนี้ครับ
- อายุรถปีที่ 6 ได้รับส่วนลด 10%
- อายุรถปีที่ 7 ได้รับส่วนลด 20%
- อายุรถปีที่ 8 ได้รับส่วนลด 30%
- อายุรถปีที่ 9 ได้รับส่วนลด 40%
- อายุรถปีที่ 10 ขึ้นไป ได้รับส่วนลด 50%
วิธีการเช็คภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์
ปัจจุบันการเช็คภาษีรถทำได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก โดยคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ครบถ้วน ทั้งวันหมดอายุภาษี ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ ความจำเป็นในการตรวจสภาพรถ และค่าปรับกรณีเลยกำหนด มาดูขั้นตอนการตรวจสอบกัน
เข้าไปที่เว็บไซต์ eservice.dlt.go.th
- เข้าสู่ระบบตรวจสอบ
- เปิดเว็บเบราว์เซอร์แล้วเข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก
- มองหาเมนู “สอบถามข้อมูลค่าภาษีรถประจำปี” แล้วคลิกเข้าไป
- ระบบจะนำคุณไปยังหน้าสำหรับกรอกข้อมูลเพื่อเช็กภาษีรถยนต์
- กรอกข้อมูลรถยนต์
- ประเภทรถ เลือกประเภทรถของคุณให้ถูกต้อง เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3)
- จังหวัด ระบุจังหวัดที่จดทะเบียนรถยนต์
- เลขทะเบียนรถ ใส่หมายเลขทะเบียนรถของคุณ (ไม่ต้องใส่ตัวอักษรย่อจังหวัด)
- เลขบัตรประชาชน/เลขทะเบียนนิติบุคคล กรอกเลข 13 หลักของผู้ครอบครองรถให้ถูกต้อง
- ตรวจสอบผลลัพธ์และเช็กข้อมูล
หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนและกด “ค้นหา” ระบบจะแสดงรายละเอียดสำคัญต่างๆ ขึ้นมาทันที ให้คุณตรวจสอบความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น
- รายการข้อมูลรถยนต์ เช่น ยี่ห้อรถ รุ่นรถ
- วันสิ้นอายุภาษีปัจจุบัน เพื่อให้รู้ว่าต้องต่อเมื่อไหร่ และช่วยเช็กภาษีรถยนต์หมดอายุได้
- จำนวนเงินภาษีรถยนต์ที่ต้องชำระในปีนี้
- เงินเพิ่ม (หากชำระล่าช้าเกินกำหนด)
- สถานะการตรวจสภาพรถ
- ยอดหนี้ค่าปรับตามใบสั่งจราจร (ถ้ามี)
ไม่ต่อภาษีรถยนต์มีโทษอะไรบ้าง
การละเลยไม่ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้การเช็กภาษีรถยนต์ในครั้งถัดไปยุ่งยากขึ้นแล้ว ยังมีบทลงโทษตามกฎหมายที่เจ้าของรถควรรู้ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนี้ครับ
- ค่าปรับล่าช้า หากชำระภาษีล่าช้า จะมีค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือนของค่าภาษีที่ต้องชำระ เศษของวันจะถูกปัดเป็นหนึ่งเดือน
- ทะเบียนถูกระงับ หากขาดการต่อภาษีติดต่อกันเกิน 3 ปี ป้ายทะเบียนรถของคุณจะถูกระงับทันที ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้รถคันดังกล่าวบนท้องถนนได้อีกต่อไป และหากต้องการกลับมาใช้รถ จะต้องทำเรื่องจดทะเบียนใหม่พร้อมชำระภาษีย้อนหลังและค่าปรับทั้งหมด
- โทษปรับเมื่อใช้รถ การขับรถที่ป้ายทะเบียนถูกระงับหรือยังไม่ได้ชำระภาษีประจำปี มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาทเมื่อถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ
พ.ร.บ. ต้องต่อก่อนเสียภาษีมั้ย
ก่อนเสียภาษีรถยนต์ ควรต่อ พ.ร.บ. หรือประกันภัยภาคบังคับให้เรียบร้อยก่อน โดยกฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นชำระภาษี นอกจากนี้ สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปี จะต้องผ่านการ ตรวจสภาพรถกับ ตรอ. (สถานตรวจสภาพรถเอกชน) ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถต่อ พ.ร.บ. และภาษีได้ครับ
เพื่อให้ชีวิตของคุณง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ประกันติดโล่มีบริการต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ที่ง่ายและรวดเร็ว สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา ช่วยให้คุณจัดการทุกอย่างได้ครบจบในที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปหลายที่ครับ
แค่นี้ก็ช่วยให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายและจัดการเรื่องสำคัญนี้ได้อย่างสะดวกสบาย หมดกังวลเรื่องการลืมต่อภาษีหรือไม่มีเวลาเดินทางไปที่กรมการขนส่งฯ อีกต่อไปครับ
ที่มา: DLT (กรมการขนส่งทางบก)
มองหาประกันคุ้มค่า คุ้มครอง ครอบคลุมในทุกความต้องการ ที่ดูแลผลประโยชน์สูงสุด ได้ตามความพึงพอใจของลูกค้า ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ไว้ใจให้ ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ ได้ดูแลคุณ พร้อมให้คำปรึกษาให้ความคุ้มครอง โทร.034-109-200 ต่อ 5101, 034-109-200 ต่อ 5102 หรือแอดไลน์มาที่ @mib.broker